นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.)
ไปเร่งหามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย จากปัญหาราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2562/63 ตกต่ำ เพื่อช่วยเหลือชาวไร่อ้อย
ด้านปัจจัยการผลิตและการชำระหนี้ของกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย (กท.) วงเงิน 2,085 ล้านบาท กับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
โดยแนวทางทั้งหมดจะได้ข้อสรุปในเดือน ก.ย.นี้ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป สำหรับราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิต
ปี 2562/63 ที่จะเปิดหีบในเดือน พ.ย.นี้ สอน.ได้ประมาณการรายได้ที่เกษตรกรจะได้รับอยู่ที่ 837 บาทต่อตัน (เฉลี่ย 12 ซี.ซี.เอส.) ซึ่ง
มาตรการช่วยเหลืออาจพิจารณาในรูปแบบคล้ายคลึงกับฤดูการผลิตปี 2561/62 ที่ ครม.ได้อนุมัติจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย
เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นประจำปีงบประมาณ 2562 จำนวน 6,500 ล้านบาท เพื่อซื้อปัจจัยการผลิตตันละ 50 บาท รายละไม่เกิน
5,000 ตัน และการช่วยเหลือคงจะต้องดูรายละเอียด ซึ่ง สอน.รายงานว่าอาจใช้แนวทางช่วยเหลือชาวไร่ที่ตัดอ้อยสดมากกว่าอ้อยไฟไหม้
แต่ยอมรับว่าราคาอ้อยที่ได้รับรวมอาจไม่ถึง 1,000 บาทต่อตัน เพราะต้องดูงบประมาณของภาครัฐภาพรวมด้วย
นายสุริยะ กล่าวว่า อุตสาหกรรมอ้อยมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทยอย่างมาก โดยมีมูลค่าทั้งตลาด 250,000 ล้านบาท
จึงต้องสนับสนุนเพื่อให้อุตสาหกรรมนี้อยู่รอด โดยอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญคือการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ที่เดิมจะนำอ้อยไป
ผลิตน้ำตาลทรายเท่านั้น ก็ให้สามารถไปต่อยอดเพิ่มมูลค่าทั้งเอทานอลและไบโอชีวภาพหรืออุตสาหกรรมเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio
Economy) ด้วยการนำนวัตกรรมมาเพิ่มมูลค่าอ้อย.
ที่มา : ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 28 ส.ค. 2562